0

เปิดสูตรของหวานไทย 4 ภาค...อยู่ที่ไหนก็อร่อยได้ไม่มีเบื่อ


2022-02-23 22:54:53

          ของหวานไทยแบบดั้งเดิมนั้นมักจะทำขึ้นเนื่องในโอกาสสำคัญ หรือเทศกาลพิเศษต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้มีขึ้นเฉพาะในแถบภาคกลางของไทยเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นทาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน หรือภาคใต้ ก็ล้วนแล้วแต่มีวัฒนธรรมในด้านการทำของหวานไทยเช่นนี้เหมือนกัน


          แต่รูปร่างและวัตถุดิบในการทำขนมอาจจะแตกต่างกันไปบ้างตามลักษณะของท้องถิ่นนั้น ๆ ซึ่งในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับของหวานไทยของแต่ละภาค พร้อมเจาะลึกสูตรเด็ดเคล็ดลับที่สามารถนำไปทำตามกันได้ง่าย ๆ อีกด้วย


ความเป็นมาเกี่ยวกับของหวานไทย 4 ภาค


          ของหวานไทยแต่ละภาคนั้นล้วนมีความอร่อยและมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะความเป็นอยู่รวมทั้งวัตุดิบที่นำมาทำขนมก็อาจจะมีส่วนที่แตกต่างกันออกไปบ้าง จึงทำให้ของหวานไทยแต่ละชนิดนั้นมีความโดดเด่นเฉพาะตัว


           ซึ่งของหวานไทยในภาคเหนือส่วนใหญ่จะใช้กรรมวิธีแบบต้มเป็นส่วนใหญ่ และมักจะใช้ส่วนผสมของข้าวหรือธัญพืชในการนำมาสร้างสรรค์เป็นขนมไทยที่ใช้ในงานสำคัญต่าง ๆ ในขณะที่ภาคอีสานมักจะเป็นขนมที่ไม่ได้เน้นไปที่ความสวยงามของขนมมากนัก แต่จะใส่ใจในเรื่องของรสชาติและคุณประโยชน์ ส่วนใหญ่มักจะทำจากแป้งหรือข้าวเหนียว


           ส่วนของหวานไทยในภาคใต้มักจะมีขนมที่ทำจากแป้งและไข่ ทั้งยังเป็นขนมที่เราอาจจะไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตากันมากนักแต่รับรองได้เลยว่ารสชาติอร่อยถูกลิ้นแน่นอน และสุดท้ายขนมหวานจากภาคกลางมักเป็นขนมที่มีรสหวานมีส่วนประกอบของกะทิ แป้ง ไข่ เป็นต้น




                               


  1. ภาคกลาง

  • ลูกชุบ

         ของหวานไทยสุดสร้างสรรค์ที่เป็นขนมขวัญใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ด้วยรสชาติหวานมันและสีสันที่สดใส ทั้งยังมีการปั้นลูกชุบเลียนแบบสิ่ง ๆ ต่าง ๆ ก่อนนำไปชุบวุ้นน้ำตาลเหนียวหนึบ เรียกได้ว่าเป็นขนมทานเล่นที่ทั้งอร่อยทั้งสวยงามเลยจริง ๆ 


วัตถุดิบ

  • ถั่วเขียว
  • น้ำตาลทราย
  • กะทิ
  • เกลือ
  • น้ำ
  • ผงวุ้น
  • วัตถุดิบให้สี


วิธีทำ

  1. ทำเนื้อลูกลุบก่อน โดยการนำเอาถั่วเขียวที่นึ่งแล้วปั่นให้ละเอียด
  2. ใส่น้ำตาลทราย กะทิ และเกลือนิดหน่อย จากนั้นตั้งไฟ
  3. กวนเนื้อถั่วให้เข้ากัน จนเนื้อเนียมนุ่มไม่ติดที่กวน จากนั้นพักเอาไว้ให้เย็น
  4. สำหรับตัววุ้นเคลือบ ให้นำน้ำสะอาดตั้งไฟจนเดือด ละลายผงวุ้น และน้ำตาลก็เป็นอันเสร็จ
  5. เมื่อวัตถุดิบพร้อมแล้วก็เริ่มปั้นตัวเนื้อเป็นรูปแบบต่าง ๆ โดยสามารถใส่สีเพิ่มเติมลงไปก็ได้ จากนั้นนำไปชุบลงในวุ้น พักไว้ให้เย็น ก็จะได้ลูกชุบแสนอร่อยแล้ว



                                     


  1. ภาคเหนือ

  • ข้าวแต๋น

          ข้าวแต๋นเป็นขนมไทยสุดอร่อยที่เริ่มนิยมทานกันในภาคเหนือ ซึ่งส่วนใหญ่จะทานข้าวเหนียวกันในมื้อาหารหลักกันเป็นปกติ ดังนั้นเมื่อมีข้าวเหนียวที่เหลือจากการกินแล้วก็มักจะนำมาแปรรูปโดยกรรมวิธีต่าง ๆ จนเกิดเป็นขนมข้าวแต๋นนั่นเอง


วัตถุดิบ

  • ข้าวเหนียว 
  • น้ำตาลทราย
  • น้ำมันรำข้าว
  • น้ำเปล่า
  • น้ำตาลปี๊บ
  • เกลือ 


วิธีทำ

  1. นำข้าวเหนียวผสมกับน้ำตาลทราย คลุกจนข้าวเหนียวคลายตัวออกจากกัน
  2. ตักข้าวเหนียวเป็นลักษณะกลมบาง จากนั้นนำไปตากแดดจนแห้ง เมื่อได้ที่แล้วก็ให้นำไปทอดจนเหลืองฟูกรอบ
  3. จากนั้นให้ตั้งไฟเพื่อเคี่ยวน้ำตาลราด โดยเคี่ยวน้ำตาลปี๊ปกับน้ำสะอาด เติมน้ำตาลทรายแลเกลือเล็กน้อย เมื่อได้ที่ให้นำไปราดบนข้าวแต๋นที่ทอดเอาไว้ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย




                                     

  1. ภาคอีสาน

  • ข้าวโป่ง

         ข้าวโป่ง หรือ ข้าวเกรียบว่าว เป็นขนมพื้นบ้านของชาวภาคอีสาน ซึ่งมักจะทำทานกันในช่วงฤดูหนาวเพราะเป็นช่วงที่ชาวบ้านทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตหมดแล้วนั่นเอง


วัตถุดิบ

  • ข้าวเหนียวดิบ
  • น้ำสะอาด
  • น้ำตาลปี๊ป


วิธีทำ

  1. ขั้นตอนแรกจะต้องนำข้าวเหนียวที่ยังไม่ได้นึ่งไปแช่น้ำสะอาดเอาไว้จนเม็ดบานได้ที่ จากนั้นนำไปนึ่งจนสุก
  2. เมื่อได้ข้าวเหนียวแล้วให้ทำการตำ(หรือปั่น)จนละเอียด หมั่นเติมน้ำตาลปี๊ปลงไปเป็นระยะ นวดต่อไปจนกว่าส่วนผสมจะเข้ากัน
  3. เมื่อได้ตัวแป้งแล้วให้ทำการแบ่งเป็นก้อนกลม ๆ แล้วกดให้แบนที่สุด
  4. นำไปตากแดด
  5. เมื่อได้ที่แล้วก็สามารถนำไปย่างบนเตา หมั่นพลิกตัวแป้งบ่อย ๆ เมื่อได้ที่แป้งจะฟูกรอบและส่งกลิ่นหอมก็เป็นอันใช้ได้




                                   


  1. ภาคใต้

  • ขนมโค

         ขนมโคกับมะพร้าวอ่อนหอมอร่อยเป็นอีกหนึ่งขนมไทยที่ชาวใต้คุ้นเคยกันดี เนื่องจากคนใต้มักจะนิยมทำขนมชนิดนี้เพื่อไหว้บรรพบุรุษหรือสิ่งที่เคารพเช่น มโนราห์ เป็นต้น ซึ่งได้รับอิทธิพลในการทำขนมชนิดนี้มาจากอินเดีย


วัตถุดิบ

  • แป้งข้าวเหนียว
  • น้ำเปล่า
  • น้ำตาลแว่น หรือ น้ำตาลปี๊ป
  • เกลือ
  • มะพร้าวขูด


วิธีทำ

  1. ผสมแป้งข้าวเหนียวกับน้ำสะอาด นวดไปเรื่อย ๆ จนสามารถปั้นได้ อาจจะใส่สีหรือวัตถุดิบเพื่มรสชาติอื่น ๆ เช่น ฟักทอง เผือก ด้วยก็ได้
  2. นำน้ำตาลแว่นหรือน้ำตาลปี๊ปมาแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ
  3. น้ำแป้งที่ได้ที่มาห่อน้ำตาลที่แบ่งเอาไว้ ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ จากนั้นนำไปต้มจนสุก
  4. คลุกแป้งที่ต้มแล้วกับน้ำพร้าวที่ขูดเตรียมเอาไว้ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย




สรุป

          ขนมไทยที่เราอาจจะเคยได้เห็นหรือเคยลองทานกันมานั้น จริง ๆ แล้วในแต่ละพื้นที่ก็มีความแตกต่างกันออกไปทั้งในด้านของกรรมวิธีการทำและวัตถุดิบที่นำมาใช้ เช่นบางพื้นที่จะนิยมใช้ไข่ น้ำตาล กะทิ แต่บางพื้นที่ก็อาจจะนิยมทำขนมจากข้าวเหนียวนั่นเอง


           นี่จึงเป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้เลยว่าขนมไทยเป็นได้มากกว่าแค่สิ่งที่สร้างความอร่อย เพราะมันยังสามารถบอกเล่าถึงวิถีชีวิตของคนในอดีต และวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่ส่งผ่านกาลเวลามาในขนมเหล่านี้ด้วยนั่นเอง




ที่มาของภาพ

  • https://www.greenery.org/articles/how-to-co-dessert-sticky-rice/
  • https://www.isangate.com/new/firstpage/34-art-culture/food/675-kao-pong.html
  • https://xn--q3cp7eza.net/30/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%9A/
  • https://cooking.kapook.com/view214336.html

ติดต่อเรา / Contact Us


ถนนอินทราวาส แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม

LINE id : @prungthaidessert
  086 983 6564

hello.prung@gmail.com 


Copyright ® 2019 prung.me 

เราใช้ cookies เพื่อเพิ่มประสบการณ์การซื้อสินค้าของคุณ กด ยอมรับ เพื่อเลือกซื้อสินค้าต่อ หรือตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบาย cookies ของเราได้ ที่นี่