สำหรับช่วงเวลา ณ ตอนนี้ที่ใครหลายคนต้องกักตัวอยู่กับบ้านด้วยสาเหตุอะไรก็ตามแต่ ทำให้นอกจากจะมีเวลาว่างให้สามารถทำกิจกรรมร่วมกันกับสมาชิกในครอบครัวได้แล้ว ก็ยังสามารถหยิบนู่นจับนี่เพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ได้อีกด้วย
ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาแบ่งปันสูตรของว่างไทยง่าย ๆ ที่ไม่ว่าคุณจะมีความเชี่ยวชาญในด้านการทำอาหารหรือไม่ก็ไม่สำคัญ เพราะขนมเหล่านี้เป็นของหวานที่ทำตามได้ไม่ยากและช่วยทำให้ทุกคนรู้สึกสดชื่นหายเหนื่อยได้อีกด้วย หรือใครจะจดสูตรเพื่อไปทำขายก็สามารถทำได้เช่นกัน
ของว่างไทยง่าย ๆ ที่สามารถทำตามได้ง่ายและยังช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ทั้งยังมีความอร่อยหอมหวานตามแบบฉบับของเมนูของหวานไทยโบราณนั้นมีอยู่หลายประเภท ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีส่วนผสมที่หาซื้อได้ไม่ยาก และไม่ได้มีวิธีการทำที่วุ่นวายมากนัก ดังนั้นจึงสามารถทำทานเองที่บ้าน หรือรวมตัวกับลุง ป้า น้า อา ลูก ๆ หลาน ๆ เพื่อสร้างความทรงจำที่ดีร่วมกันในการทำของว่างไทยง่าย ๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน
ซึ่งในอดีตการทำขนมไทยก็มักจะร่วมลงแรงกันโดยคนกลุ่มใหญ่เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นเสน่ห์ของขนมไทยก็คงจะสามารถกล่าวได้ว่านอกจากจะมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์แล้ว ก็ยังสร้างความรู้สึกพิเศษให้กันได้อีกด้วย
บัวลอยหลากสี
บัวลอยอาจจะเป็นของว่างไทยง่าย ๆ ที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายคนเนื่องจากการทำบัวลอยนั้นเป็นกิจกรรมที่สนุกที่สุดเท่าที่ตัวเราในวัยเด็กจะจำได้ นั่นก็เป็นเพราะว่าทุกครั้งที่มีการขนมประเภทนี้ หน้าที่ในการปั้นเจ้าเม็ดแป้งกลมกลึงจะถูกยกให้เป็นหน้าที่ของเด็ก ๆ ในบ้าน เพื่อให้สามารถมีกิจกรรมทำระหว่างรอทานขนมไทยนั่นเอง
วัตถุดิบในการทำบัวลอย
กะทิคั้นแล้ว 3 ถ้วยตวง
น้ำตาลปี๊บประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น ½ ช้อนโต๊ะ
เนื้อมะพร้าวอ่อน
ใบเตยสด
แป้งข้าวเหนียว 100 กรัม
แป้งมัน 10 กรัม
น้ำเปล่า
วัตถุดิบสร้างสี(ใบเตย อัญชัญ ฟักทอง เป็นต้น)
วิธีทำบัวลอย
ขั้นตอนแรกให้ทำการผสมตัวบัวลอยก่อน โดยการนำเอาแป้งข้าวเหนียวและแป้งมันมาผสมกันแล้วเติมน้ำให้พอนวดแป้งได้ จากนั้นแยกแป้งเป็นสัดส่วนเอาไว้เพื่อทำการผสมสี
นำวัตถุดิบที่ต้องการสร้างสีจากธรรมชาติต่าง ๆ มานวดผสมกับแป้งที่เตรียมไว้ (ในขั้นตอนนี้หากแป้งจับตัวยากหรือแห้งแตกให้ค่อย ๆ เติมน้ำสะอาดลงไปได้)
เมื่อนวดจนได้สีตามที่ต้องการแล้วให้นำผ้าขาวบางหรือพลาสติกห่ออาหารมาคลุมเอาไว้ เพื่อไม่ให้โดนลมจนทำให้แป้งแห้งแข็งจากนั้นค่อย ๆ ปั้นลูกบัวลอยเป็นลูกกลมตามขนาดที่ต้องการ
จากนั้นให้ตั้งหม้อสำหรับทำน้ำกะทิโดยใส่กะทิที่คั้นแล้วลงไปในหม้อ แล้วเติมน้ำตาลปี๊บลงไปเคี่ยวจนหอมกรุ่น
หมั่นคนบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้กะทิไหม้
เติมเกลือและใบเตยลงไปเคี่ยวต่อจนเดือดก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
จากนั้นลวกตัวบัวลอยที่ปั้นทิ้งเอาไว้ด้วยน้ำเดือด
เมื่อราดน้ำกะทิลงไปก็สามารถลิ้มรสความหอมหวานตามแบบของว่างไทยโบราณได้เลยทันที
ขนมตาล
เมนูของหวานไทยโบราณที่มีรสชาติหอมหวาน และได้รสสัมผัสคล้ายกับเบเกอรี่ของฝรั่งในสมัยก่อน นั่นก็คือ ‘ขนมตาล’ ซึ่งมีสีเหลืองนวลเนียนและมีความโดดเด่นในเรื่องของความหอมทุกครั้งเมื่อได้ลิ้มลอง
โดยเดิมทีในสมัยก่อนคงไม่มีใครจินตนาการได้ว่าของว่างไทยง่าย ๆ รสชาติหอมหวานนี้จะมีวัตถุดิบสำคัญหรือก็คือ ‘ลูกตาล’ ที่สุกจนงอมและมีกลิ่นแรงจนแสบจมูก แต่เมื่อนำมาผ่านกรรมวิธีแบบดั้งเดิมก็ปรากฏว่ากลิ่นของตาลสุกนี่เองที่ทำให้ขนมตาลเป็นที่ถูกอกถูกใจใครหลาย ๆ คน
วัตถุดิบในการทำขนมตาล
น้ำตาลทราย 400 กรัม
น้ำกะทิคั้นประมาณ 3 ถ้วย
เนื้อลูกตาลสุก
แป้งข้าวเจ้า 500 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
มะพร้าวขูด
เกลือ
วิธีทำขนมตาล
ขั้นตอนแรกให้ทำการฉีกลูกตาลออกโดยแยกเนื้อออกมาเก็บไว้
จากนั้นทำการต้มเนื้อตาลจนสุก(ให้สังเกตว่าเนื้อตาลนิ่มและค่อนข้างเป็นเนื้อเดียวกัน)
นำเนื้อตาลมากรองเอาน้ำออกแล้วพักเอาไว้ให้เนื้อตาลนวลเนียน
ผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย เกลือ และกะทิ คนให้เข้ากันดีแล้วนำเนื้อตาลผสมลงไปตามด้วยผงฟูแล้วคนให้เข้ากันทิ้งเอาไว้สักพัก
เทใส่ภาชนะ(ตามสะดวก)จากนั้นนึ่งจนแป้งตาลฟูดี เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
3. แตงไทยน้ำกะทิ
แตงไทยน้ำกะทิเป็นอีกหนึ่งของว่างไทยง่าย ๆ ที่สามารถทำได้เองที่บ้าน เพราะไม่ได้มีวัตถุดิบในการทำเยอะและยังสามารถหาซื้อวัตถุดิบได้ง่ายอีกด้วย
โดยแตงไทยน้ำกะทิเรียกได้ว่าเป็นของหวานกะทิที่มีวิธีการทานหลากหลาย ไม่ว่าจะทานแบบอุ่นร้อนก็จะได้ความรู้สึกหอมหวานของน้ำตาลที่เคี่ยวจนแตกมัน หรือจะเติมน้ำแข็งลงไปก็จะได้รสสัมผัสที่เย็นสดชื่นเหมาะกับการทานในหน้าร้อนเป็นอย่างมาก
วัตถุดิบในการทำแตงไทยน้ำกะทิ
แตงไทยสุก
กะทิคั้นแล้วตามปริมาณที่ต้องการ
น้ำตาลปี๊บ(สามารถปรับปริมาณตามความหมานที่ชื่นชอบได้)
เกลือประมาณ ½ ช้อนชา
วิธีทำแตงไทยน้ำกะทิ
นำแตงไทยไปล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นปอกเปลือกคว้านเอาเมล็ดออก แล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
ตั้งหม้อแล้วใส่น้ำกะทิที่คั้นแล้วลงไปต้ม จากนั้นใส่น้ำตาลปี๊บลงไปแล้วละลายให้เข้ากัน ใช้ไฟปานกลางหมั่นคนอยู่เสมอ เมื่อเดือดแล้วให้ยกลง
หากต้องการเพิ่มความหอมให้เติมน้ำดอกมะลิหรือใบเตยลงไป
นำแตงไทยที่หั่นเอาไว้มาราดน้ำกะทิ โดยจะเสิร์ฟพร้อมน้ำแข็งด้วยก็ได้ เพียงเท่านี้ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับเมนูของหวานง่าย ๆ ทำเองอย่างแตงไทยน้ำกะทิได้แล้ว
ของว่างไทยง่าย ๆ ที่สามารถทำกันเองได้ที่บ้านนั้น นอกจากจะทำให้สมาชิกในครอบครัวได้ใช้เวลาว่างร่วมกันได้แล้ว ยังทำให้ได้เพลิดเพลินไปกับความหอมหวานของบรรดาเมนูของหวานไทยโบราณที่เมื่อได้ลิ้มรสแล้วเป็นต้องติดใจแน่นอน
และเนื่องจากเมนูเหล่านี้เป็นวิธีทำของหวานง่าย ๆ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะไม่เคยเข้าครัวมาก่อนหรือไม่ ก็ยังสามารถทำตามได้เช่นกัน รับรองได้ว่าทำทานเองก็อร่อย หรือจะทำขายลูกค้าก็เป็นอันต้องติดอกติดใจแน่นอน
ที่มาของภาพ
1. https://mthai.com/other/66814.html
2. https://sites.google.com/site/parichatenjoy24/khnm-hwan-khlay-rxn/taeng-thi-na-kathi